การตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญ: เหตุผล วิธีการ และผลกระทบทางภาษีที่เจ้าของธุรกิจต้องรู้
ในทางบัญชี ลูกหนี้การค้า เป็นสินทรัพย์หมุนเวียนที่มีความเสี่ยงสูง หากลูกหนี้ผิดนัดชำระเกินระยะเวลา อาจต้อง ตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญ เพื่อให้สะท้อนความเป็นจริงของฐานะทางการเงิน และลดความเสี่ยงในการรายงานกำไรเกินจริง
การตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญคืออะไร
คือการบันทึกค่าใช้จ่ายบัญชีในงบกำไรขาดทุน เพื่อเตรียมไว้สำหรับหนี้ที่มีความเสี่ยงว่าจะไม่สามารถเก็บได้จริง
เงื่อนไขในการตั้งสำรองหนี้สูญ (ตามมาตรฐานบัญชี)
• ต้องเป็นหนี้ที่มีหลักฐานว่า ค้างเกินกำหนดชำระ แล้วอย่างน้อย 3 เดือนขึ้นไป
• มีความพยายามติดตามทวงถามแล้ว เช่น มีหนังสือทวงหนี้ หรือแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน
• ต้องบันทึกบัญชีโดยใช้บัญชี "หนี้สงสัยจะสูญ" (Allowance for Doubtful Accounts)
ตัวอย่าง:
ลูกหนี้ค้างชำระ 200,000 บาท เกิน 180 วัน และมีจดหมายทวงหนี้ 2 ฉบับแล้ว
จะตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญ = 100% ของยอดหนี้นี้ (ถ้าประเมินว่าเก็บไม่ได้)
ผลกระทบทางภาษี: ตั้งสำรองได้ทุกกรณีหรือไม่?
กรมสรรพกร ไม่ยอมให้ตั้งค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญเพื่อนำไปหักภาษีทันที ทุกกรณี ต้องมี คุณสมบัติครบตามข้อกำหนดในมาตรา 65 ตรี (8) แห่งประมวลรัษฎากร
คุณสมบัติที่กรมสรรพากรยอมรับ:
1. หนี้ต้องมีการฟ้องร้อง หรือถูกชำระบัญชี/ล้มละลายแล้ว
2. หรือเป็นหนี้ที่มีการทวงถามตามขั้นตอนและไม่มีหลักประกัน
3. และต้องบันทึกในบัญชีลูกหนี้มาแล้วอย่างน้อย 2 ปี
หากไม่เข้าตามเกณฑ์นี้ หนี้สงสัยจะสูญจะถือเป็น ค่าใช้จ่ายต้องห้าม และไม่สามารถนำไปหักกำไรสุทธิได้
ข้อควรระวังสำหรับผู้ประกอบการ
• หากบันทึกสำรองหนี้สูญในงบแต่ไม่ได้ผ่านเกณฑ์ภาษี จะทำให้กำไรบัญชีลดลง แต่กำไรภาษีไม่ลด ทำให้ต้องเสียภาษีเพิ่ม
• ในกรณีที่หนี้สูญกลับมาเก็บได้ในอนาคต ต้องรับรู้เป็นรายได้ในปีที่เก็บได้
ให้ Accountmind ช่วยคุณจัดการบัญชีที่ถูกต้องตามมาตรฐาน
Accountmind มีทีมผู้เชี่ยวชาญบัญชีและภาษีคอยช่วยคุณวางแผนสำรองหนี้สงสัยจะสูญอย่างมืออาชีพ พร้อมยื่นแบบ ภ.ง.ด.50 อย่างถูกต้อง ลดความเสี่ยงประเมินภาษีย้อนหลัง
สอบถามฟรี LINE: @accountmind | โทร 089-498-4816
เว็บไซต์: www.accountmind.co.th
แหล่งอ้างอิง:
• มาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ 105: การประมาณหนี้สูญ
• ประมวลรัษฎากร มาตรา 65 ตรี (8): https://www.rd.go.th/610.html
• คู่มือบัญชีลูกหนี้โดยสภาวิชาชีพบัญชี: www.fap.or.th